🟢 1. ATV เกียร์อัตโนมัติ (Automatic)
✅ เหมาะกับใคร: มือใหม่ นักท่องเที่ยว ผู้ใช้งานทั่วไป
🔧 ลักษณะ:
ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เอง ขับง่าย เหมือนสกู๊ตเตอร์หรือรถเก๋ง แค่บิดคันเร่งก็ไปเลย

✅ ข้อดี:
ขับง่าย ไม่ต้องสนใจรอบเครื่อง เหมาะกับทางชัน ทางโคลน ทางลุยที่ต้องใช้สมาธิในการควบคุม มือใหม่ขี่ได้ทันที

❌ ข้อจำกัด:
บางรุ่นอาจไม่มีแรงดึงเท่า Manual เมื่อเจอสภาพทางโหดๆ ควบคุมจังหวะไม่ได้ละเอียดเท่าเกียร์ธรรมดา

🛠️ เหมาะกับ: ท่องเที่ยวฟาร์ม รีสอร์ท ใช้งานเบาๆ หรือผู้ที่ไม่ชอบเปลี่ยนเกียร์

🟡 2. ATV เกียร์ธรรมดา (Manual)
✅ เหมาะกับใคร: คนมีประสบการณ์ / สายลุยจริงจัง

🔧 ลักษณะ:
ต้องเปลี่ยนเกียร์เอง + ใช้คลัตช์มือ เหมือนขี่มอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา

✅ ข้อดี:
คุมพละกำลังได้ดีเยี่ยม (เช่น รอบต่ำในโคลนลึก หรือรอบสูงบนทางชัน) เหมาะกับงานหนัก ลากของ หรือแข่ง

❌ ข้อจำกัด: ขับยากกว่าสำหรับมือใหม่ ถ้าคลัตช์พังหรือเบิร์นบ่อยจะต้องซ่อมมากกว่า

🛠️ เหมาะกับ: ใช้ในป่า งานเกษตรจริงจัง ลากของ ขึ้นเขาลงห้วย

🔵 3. ATV กึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automatic)
✅ เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการความแรงแต่ไม่อยากใช้คลัตช์

🔧 ลักษณะ: ต้องเปลี่ยนเกียร์เอง แต่ ไม่ต้องใช้คลัตช์ ใช้เท้า/มือในการเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลงเหมือนรถครัชท์แต่ไม่มีมือบีบ

✅ ข้อดี:
ควบคุมจังหวะได้เหมือน Manual ไม่มีคลัตช์ให้พังหรือต้องซ่อม ขับง่ายกว่ารถ Manual แต่ยังลุยได้

❌ ข้อจำกัด:
ต้องเรียนรู้การเปลี่ยนเกียร์เอง (แม้จะง่ายกว่าก็ยังมี learning curve)

🛠️ เหมาะกับ: ผู้ใช้งานที่ไม่อยากซ่อมบำรุงบ่อย แต่ยังต้องการคุมพลังขับ

ถ้าคุณอยากได้ ATV สำหรับ ขับเล่น+ใช้งานทั่วไป+ไม่ซับซ้อน → แนะนำ Auto
ถ้าคุณใช้งาน หนักในฟาร์ม/บนเขา/ต้องการแรงดึง/ลากของ → เลือก Manual
ถ้าอยาก ลุยได้แต่ไม่อยากใช้คลัตช์ให้ยุ่งยาก → Semi-Auto คือทางสายกลาง